ปราสาทฮิเมจิคืออะไร?
ปราสาทฮิเมจิ (姫路城) ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นหนึ่งในปราสาทที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น และได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1993
ด้วยผนังสีขาวอันงดงาม จึงถูกเรียกว่า "ปราสาทนกนางนวลขาว (白鷺城)" และถือเป็นสุดยอดผลงานสถาปัตยกรรมปราสาทจากยุคสมัยสงครามกลางเมืองจนถึงยุคเอโดะ
ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทไม่กี่แห่งที่ยังคงหอคอยหลัก (天守閣) ดั้งเดิมไว้ สถานะทางประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์ที่ดีเยี่ยมทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตามฤดูกาลต่าง ๆ ได้ จึงมีคุณค่าในการเยี่ยมชมตลอดทั้งปี

เสน่ห์ของปราสาทฮิเมจิ
1. วิวสุดตาจากหอคอยหลัก
หอคอยหลักของปราสาทฮิเมจิมีความสูงประมาณ 46 เมตร มีชั้นภายนอก 5 ชั้น ภายในเป็น 6 ชั้นบวกชั้นใต้ดิน 1 ชั้น รวมทั้งหมด 7 ชั้น เมื่อขึ้นไปภายในปราสาทจะได้เห็นวิวที่แตกต่างกันในแต่ละชั้น
จากชั้นบนสุดสามารถมองเห็นตัวเมืองฮิเมจิและภูเขาโดยรอบได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะช่วงดอกซากุระและฤดูใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเป็นวิวที่งดงามเป็นพิเศษ
ภายในหอคอยหลักมีนิทรรศการเกี่ยวกับโครงสร้างและประวัติของปราสาท ผู้เข้าชมจะได้เรียนรู้ระบบการป้องกันและเทคโนโลยีการก่อสร้างในยุคสงครามกลางเมือง
2. ภายนอกงดงามดุจนกนางนวล
ผนังปูนขาวของปราสาทฮิเมจิเมื่อมองจากไกลจะดูคล้ายกับนกนางนวลกางปีก
ปราสาทจะแสดงสีหน้าแตกต่างตามฤดูกาลและช่วงเวลา โดยเฉพาะเมื่อถูกแสงอาทิตย์ยามเย็นจะดูน่าประทับใจเป็นพิเศษ
3. พื้นที่กว้างขวางและสวน
ปราสาทฮิเมจิมีพื้นที่กว้างขวาง ประกอบด้วยหลายเขตเช่น ฮอนมารุ (บริเวณปราสาทหลัก), นิ โนะ มารุ และซัน โนะ มารุ
ภายในบริเวณมีสวนสวยกระจายอยู่ ทำให้การเดินเล่นเพียงอย่างเดียวก็เพลิดเพลินได้
สวนที่แนะนำเป็นพิเศษคือ "โคโคเอ็น (好古園)" ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของปราสาท คุณจะได้เพลิดเพลินกับความงามของสวนญี่ปุ่นดั้งเดิม
4. ออกแบบผสานระหว่างการป้องกันและความงาม
ปราสาทฮิเมจิไม่ได้โดดเด่นเพียงความงาม แต่ยังออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมในด้านการป้องกัน
มีทางเดินชวนสับสนเหมือนเขาวงกต โครงสร้างหินที่ซับซ้อน และกับดักต่าง ๆ เพื่อบีบให้ศัตรูถอยร่น ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาในยุคสงคราม
5. ทิวทัศน์ตามฤดูกาล
- ฤดูใบไม้ผลิ: ประมาณ 1,000 ต้นของซากุระบานสะพรั่ง ให้ความแตกต่างอย่างงดงามกับปราสาท
- ฤดูร้อน: ท้องฟ้าสีครามและผนังปราสาทสีขาวสร้างบรรยากาศสดชื่น
- ฤดูใบไม้ร่วง: ใบไม้เปลี่ยนสีเข้ากับตัวปราสาท เหมาะแก่การถ่ายภาพสวย ๆ
- ฤดูหนาว: ปราสาทฮิเมจิในทะเลหิมะให้ความรู้สึกเงียบสงบและยิ่งใหญ่

วิธีการเดินทางไป
การเดินทางโดยรถไฟ
- จากสถานี JR สายซันโย หรือชินคันเซ็น "สถานีฮิเมจิ (姫路駅)" เดินประมาณ 20 นาที
- จากสถานีฮิเมจิ เดินตรงตามถนนโอเตะมเอะ (大手前通り) จะเห็นปราสาทฮิเมจิชัดเจน
- จากสถานีเซ็นโทยามาเอะ (山陽電鉄) "สถานีซันโย ฮิเมจิ (山陽姫路駅)" เดินประมาณ 15 นาที
- จากสถานีนั้นก็เข้าถึงได้ง่ายเช่นกัน
การเดินทางโดยรถยนต์
- จากตัวเมืองโอซาก้า ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
- ใช้ทางด่วนจีน (Chugoku Expressway) หรือทางด่วนซันโย (Sanyo Expressway) รอบๆ ปราสาทมีลานจอดรถที่เสียค่าบริการหลายแห่ง

วิธีสนุกกับการเที่ยวปราสาทฮิเมจิ
1. เยี่ยมหอคอยหลัก
เริ่มจากมุ่งสู่หอคอยหลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปราสาท
เดินขึ้นบันได ชมการจัดแสดงภายใน และขึ้นไปยังชั้นบนสุดเพื่อชมวิวที่น่าทึ่ง
2. ผ่อนคลายในสวนโคโคเอ็น
โคโคเอ็น (好古園) ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของปราสาท เป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
เพลิดเพลินกับสวนลำน้ำและบ้านชงชาพร้อมช่วงเวลาเงียบสงบ
3. ถ่ายภาพดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่ช่างภาพไม่ควรพลาด
นอกจากในปราสาทแล้ว ยังมีจุดชมวิวรอบ ๆ ปราสาทที่คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม
4. ร่วมทัวร์นำเที่ยวมีไกด์
สำหรับผู้ที่ต้องการทราบประวัติและโครงสร้างของปราสาทอย่างลึกซึ้ง การเข้าร่วมทัวร์นำเที่ยวโดยไกด์ท้องถิ่นจะมีประโยชน์
มีทัวร์เป็นภาษาอังกฤษให้บริการ จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ข้อมูลอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
เวลาทำการ
- 9:00~17:00 (เข้านอกสุด 16:00)
- ในช่วงฤดูร้อนหรือเทศกาลบางครั้งอาจมีการขยายเวลา
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 300 เยน (ข้อมูล ณ ปี 2024)
- ตั๋วชุดรวมโคโคเอ็นจะคุ้มค่ากว่า
การแต่งกายที่แนะนำ
- ภายในปราสาทมีบันไดมาก แนะนำสวมรองเท้าที่เดินสบาย
- เตรียมเสื้อกันหนาวหรือหมวกตามฤดูกาลจะทำให้สบายยิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง
- การรับประทานอาหารภายในปราสาทอนุญาตเฉพาะบริเวณที่กำหนด
- โปรดปฏิบัติตามเขตห้ามเข้าและคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า
สรุป
ปราสาทฮิเมจิเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามของญี่ปุ่น
โครงสร้างอันยิ่งใหญ่และทิวทัศน์ตามฤดูกาลทำให้ผู้มาเยือนทั้งในและต่างประเทศต้องหลงใหล
การเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ
เมื่อมาเยือน อย่าพลาดชมวิวจากหอคอยหลักและเดินเล่นรอบสวนเพื่อสร้างความทรงจำพิเศษ!
คำถามที่พบบ่อย
Q1. ควรไปเยือนปราสาทฮิเมจิในฤดูไหน?
ช่วงดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่แนะนำเป็นพิเศษ แต่แต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน
Q2. มีบริการภาษาอังกฤษไหม?
ป้ายบอกทางและแผ่นพับภายในปราสาทมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ยังมีทัวร์นำเที่ยวที่รองรับภาษาอังกฤษให้บริการ
Q3. เหมาะสำหรับการพาเด็กไปเที่ยวไหม?
ได้แน่นอน พื้นที่จัดแสดงภายในปราสาทและสวนกว้างทำให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินได้มาก
อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเพราะมีบันไดมาก
ขอเชิญมาเยือนปราสาทฮิเมจิ เพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์และความงามของญี่ปุ่นด้วยตัวเอง!